About Me

header ads

สกสว. จับมือ มทร.ธัญบุรี สร้างบุคลากรเทคโนโลยี EV Charger และ AI เสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าไทย

สกสว. จับมือ มทร.ธัญบุรี ปั้นบุคลากรเทคโนโลยี EV Charger และ AI หนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าไทย

     เมื่อวันที่ 4 ตุลาคมที่ผ่านมา คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (มทร.ธัญบุรี) จัดพิธีเปิด “โครงการพัฒนากำลังคนสมรรถนะสูงในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ด้านเทคโนโลยีเครื่องอัดประจุยานยนต์และการซ่อมบำรุงด้วยระบบปัญญาประดิษฐ์” โดยได้รับเกียรติจาก รองศาสตราจารย์ ดร.นพพร ลีปรีชานนท์ รองผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) เป็นประธานเปิดโครงการและปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “การสร้างความตระหนักรู้ระบบนิเวศเครื่องอัดประจุยานยนต์ไฟฟ้าสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน” ในการนี้ ศาสตราจารย์ ดร.กฤษณ์ชนม์ ภูมิกิตติพิชญ์ รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการและวิจัย มทร.ธัญบุรี ให้การต้อนรับ และ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เทอดเกียรติ ลิมปิทีปราการ หัวหน้าโครงการ กล่าวรายงาน
รศ.ดร.นพพร ลีปรีชานนท์ รองผู้อำนวยการ สกสว. เผยว่า สกสว. มอบหมายให้ หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนากำลังคนและสถาบันอุดมศึกษา การวิจัยและนวัตกรรม (บพค.) บริหารจัดการทุนวิจัยภายใต้แผนงาน F13 เพื่อผลิตและพัฒนาบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมที่มีทักษะสูง โดยมีเป้าหมายสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ ในประเด็น “ประเทศไทยเกิดงานใหม่ ทักษะสูง รายได้ดี ใน 3 อุตสาหกรรม ได้แก่ Semiconductor, EV และ AI” ทั้งนี้ บพค.ได้อนุมัติทุนประจำปี 2568 ให้แก่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรีเพื่อดำเนินโครงการดังกล่าว โดยชี้ช่องทางให้กับผู้ประกอบการว่า การพัฒนากำลังคนเป็นต้นน้ำที่มีคุณค่าที่สุด ซึ่งจะนำไปสู่การสรรสร้างต้นแบบผลิตภัณฑ์ฐานเทคโนโลยีที่มีโอกาสพัฒนาให้เป็นวิสาหกิจเริ่มต้น (Startup) และขยายฐานให้เติบโตเป็นธุรกิจฐานนวัตกรรม (IDE) ในอนาคต โดยมีหน่วย บพค. บพข. และ สนช. เป็นแหล่งสนับสนุนงบประมาณที่ผู้ประกอบการและนักวิจัยสามารถเข้าถึงได้ร่วมกัน
     ทางด้าน ศาสตราจารย์.ดร.กฤษณ์ชนม์ ภูมิกิตติพิชญ์ รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการและวิจัย มทร.ธัญบุรี กล่าวเพิ่มเติมว่า มทร.ธัญบุรี ดำเนินโครงการ เพื่อพัฒนาทักษะบุคลากรด้านเทคโนโลยีเครื่องอัดประจุยานยนต์ไฟฟ้า 4 กลุ่มคือ ช่างเทคนิค วิศวกร ผู้ตรวจและนักวิจัย พัฒนาเครือข่ายและองค์ความรู้ทั้งฮาร์ดแวร์ เฟิร์มแวร์ และโมดูลการทดสอบเครื่องอัดประจุยานยนต์ไฟฟ้าแบบกระแสสลับขนาด 7 กิโลวัตต์ (AC 7 kW EV Charger) ตามมาตรฐานที่เกี่ยวข้อง ประยุกต์ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial intelligent, AI) ในการรวบรวมและวิเคราะห์ค่าพารามิเตอร์ของการซ่อมบำรุงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการซ่อมบำรุง และ ประเมินห่วงโซ่อุปทานเครื่องอัดประจุยานยนต์ไฟฟ้าที่มีสัดส่วนชิ้นส่วนที่ผลิตภายในประเทศอย่างน้อย 60% และมีค่าเริ่มต้นคาร์บอนฟุตปริ้นต์ของผลิตภัณฑ์ (Carbon Footprint Product, CFP)  โดยมีระยะเวลาดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2568 ถึงวันที่ 31 มกราคม 2569
โครงการดังกล่าวเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับกำลังคนด้านวิศวกรรมและนวัตกรรมของประเทศ ตอบโจทย์ความต้องการบุคลากรทักษะสูงในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า และสนับสนุนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยสู่อนาคตอย่างยั่งยืน